ในช่วงเช้าวันนี้ (8 มิถุนายน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมด้วยองค์กรระหว่างประเทศและพันธมิตรภาคเอกชน ประกอบด้วย UNDP, UNEP, สมาคมบลูคาร์บอน, บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน), ธุรกิจเคมิคอลล์ เอส ซี จี และมูลนิธิ TerraCycle Thai Foundation เปิดงานวันทะเลโลก ภายใต้ธีมการจัดงาน Innovation for a Sustainable Ocean หรือ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร”

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าในวันทะเลโลกปีนี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันปล่อยทุ่นกักขยะพร้อมกัน 7 พื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด ผ่าน VDO Conference พร้อมทั้งมีการจัดแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีเพื่อการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ปัจจุบันเราใช้ประโยชน์จากท้องทะเล ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว การดำรงชีวิต พัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สร้างรายได้ปีละหลายแสนล้าน ในทางกลับกัน เราก็ทำร้ายทะเลไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสียและการทิ้งขยะลงสู่สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการจับสัตว์น้ำจนเกินศักยภาพที่จะรองรับได้

“วันทะเลโลก เปรียบเสมือนการกระตุ้นเตือนให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญและคุณประโยชน์ของทะเลและมหาสมุทร ธรรมชาติต้องการการดูแล การใช้ทรัพยากรธรรมชาติไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องใช้ตามความจำเป็น และศักยภาพที่ธรรมชาติรองรับได้ การเว้นระยะห่างให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวและปรับสมดุลโดยธรรมชาติ” นายวราวุธกล่าว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค COVID-19 รัฐบาลได้มีมาตรการงดการเดินทางและปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทุกแห่ง รวมถึงอุทยานแห่งชาติกว่า 140 แห่ง ทำให้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีการได้ฟื้นฟูโดยธรรมชาติ

แต่ปัญหาดังกล่าวก็ทำให้สามารถพบสัตว์ทะเลหายากในหลายพื้นที่ เช่น ฝูงพะยูน เกือบ 20 ตัว โผล่ว่ายน้ำรวมฝูงกันออกหากินใกล้เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง หรือ ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำ มากกว่า 30 ตัว โผล่ขึ้นมาเล่นน้ำใกล้เกาะรอก ฝูงฉลามวาฬ จำนวนมาก ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และ ฝูงฉลามหูดำ เข้ามาหากินที่หมู่เกาะพีพี และเกาะห้อง จ.กระบี่ และการวางไข่ของเต่ามะเฟือง เต่าตนุ พะยูนเข้ามาใกล้ชายหาดสวนสน จ. ระยองหลังไม่ได้พบนานนับสิบปี

รวมไปถึงทรัพยากรปะการังที่มีการฟื้นฟูตัวเองหลังจากไม่มีกิจกรรมใด ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมมนุษย์ที่สร้างการรบกวนต่อทรัพยากรธรรมชาติ

นายวราวุธกล่าวว่า “ผืนทะเลกว้างใหญ่มีสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ขนาดเล็กจนตาเรามองไม่เห็น ไปจนถึงสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งปัจจุบันเหลือไม่ถึง 10,000 ตัว และอาจจะมีสิ่งมีชีวิตที่เราไม่เคยพบเจออีกก็เป็นได้ การดูแลท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เพียงแค่เจ้าหน้าที่ภาครัฐคงยากที่จะดูแลได้หมด ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน รวมทั้งภาคเอกชน และทุกประเทศทั่วโลก ทะเลเชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียวกัน”

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าธีมการจัดงานปีนี้คือ Innovation for a Sustainable Ocean หรือ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร” ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเลเพื่อการยั่งยืน ตลอดจนเป็นการขยายความร่วมมือกันพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง

ในวันเดียวกัน นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด มหาชน กล่าวว่ามั่นคงก็จัดงานวันทะเลโลกขึ้น พร้อมทั้งมีการปล่อยทุ่นดักขยะหรือ Boom พร้อมกันหลายจังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา พังงา และกระบี่

ที่จังหวัดสมุทรปราการได้จัดงานขึ้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า อ. พระประแดง ซึ่งมั่นคงได้เริ่มวางทุ่นดักขยะมาตั้งแต่กลางปี 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีทุ่นดักขยะรวมกัน 5 ทุ่ม ความยาวรวมกัน 250 เมตร สามารถดักขยะได้ปีกว่ากว่า 4,000 กิโลกรัม

ทั้งนี้ มั่นคงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยลดปัญหาขยะในลอยอยู่ในแม่น้ำก่อนไหลลงสู่ทะเลของไทย ซึ่งแต่ละปีพบว่ามีปริมาณขยะในทะเลไทยรวมกันจำนวนมาก หากมีการติดตั้งทุ่นดักขยะเหล่านี้ก็จะสามารถดักขยะก่อนลงสู่ทะเลได้มากถึง 80%

Category:

Passion in this story