ยานยนต์คนไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ในอดีต ถ้าพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า คนบางกลุ่มจะมองว่าสมรรถนะของรถที่ใช้ไฟฟ้าไม่สามารถเทียบเท่าเครื่องยนต์สันดาปได้ ผิดกับปัจจุบันที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีจนกล้าพูดว่าสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่า หรืออาจเหนือกว่ารถยนต์ทั่วไปด้วยซ้ำ

บริษัทรถยนต์ทั่วโลกต่างคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมออกสู่ตลาด เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสภาวะโลกร้อนที่เรากำลังเผชิญ

วันหนึ่งผมได้มีโอกาสรู้จักกับจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยแท้ ซึ่งแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจของเขาคือต้องการลดปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากไอเสียบนท้องถนน

ผมเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และพบว่ามันน่าจะตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ว่าไปแล้วก็น่ามีไว้เป็นเจ้าของสักคันเหมือนกันนะครับ

วันนี้ market จะมาแนะนำให้รู้จักกับ บริษัท  อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด สตาร์ทอัพสายยานยนต์ ผู้ออกแบบ และพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์อีทราน (ETRAN) ซึ่งได้เปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกไปเมื่อปี 2560 ในชื่อ ETRAN PROM เป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการสาธารณะคันแรกของโลก ภายใต้แนวความคิด “Drive a better world”

ต่อมาในปี 2562 กลับมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว “ETRAN KRAF LIMITED EDITION” จักรยานยนต์ไฟฟ้าศักยภาพสูง สมรรถนะสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ด้วยรูปร่างหน้าตาของจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ ต้องบอกว่าผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เพราะดีไซน์ที่ทันสมัย ทั้งสีสัน รูปทรง และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญสมรรถนะของจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันนี้เทียบเท่าจักรยานยนต์ปกติได้เลย

เเน่นอนครับ…หัวใจหลักของรถไฟฟ้าก็คือ “แบตเตอรี่” เพราะไม่ว่าจะรถยนต์ไฟฟ้า หรือจักรยานยนต์ไฟฟ้าคนส่วนใหญ่มักกังวลว่าแบตเตอรี่จะอึดแค่ไหน

ต้องบอกก่อนครับว่า ความพิเศษของรถรุ่นนี้ คือ สามารถชาร์จได้สองระบบเป็นครั้งแรกของโลก (หัวชาร์จ Type2 และ AC ในเครื่องเดียวกัน) สามารถรองรับแรงดันไฟสูงสุดที่ 20A ทำให้แบตเตอรี่เต็มได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง (เมื่อใช้กับตู้ที่รองรับ) และใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง เมื่อใช้ปลั๊กไฟบ้านมาตรฐานที่ 8A  ซึ่งการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 180 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตร / ชั่วโมงเลยทีเดียว

ผมลองคำนวนดูเล่นๆ ถ้าผมขี่รถไปกลับระหว่างบ้านเเละที่ทำงานทุกวัน ในระยะทางไม่เกิน 30 กิโลเมตร / วัน หมายความว่าผมสามารถใช้รถโดยไม่ต้องชาร์จได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์เลยทีเดียว

ส่วนเรื่องราคานั้น ก็สมเหตุสมผลกับนวัตกรรม และวัสดุงาน Kraf  คืออยู่ที่คันละ 150,000 บาท จะว่าไปก็สูสีกับจักรยานยนต์ทั่วไปบนท้องถนนที่ใช้น้ำมัน แต่ถ้าเทียบกันในเรื่องประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม รับรองเลยนะครับว่าไม่สร้างมลพิษแน่ๆ สรุปโดยรวม หากมีไว้ใช้ประจำหรือจะมีไว้ขี่เล่นในวันหยุดก็น่าจะดี

จากวันนั้น  ETRAN ได้จุดแรงบันดาลที่ทำให้ผมสนใจเรื่องยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และไม่แน่นะครับ ในอนาคตเราอาจจะขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้ามาจอดคุยกันก็ได้  สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ETRAN หรือ ถ้าสนใจ Test drive สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์จองได้ที่เว็ปไซต์ www.etrangroup.com เลยครับ

การเดินทางไปทดสอบรถ

1. เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีอารีย์ ต่อวินมอเตอร์ไซค์ปากซอยพหลโยธินซอย 7 แล้วบอกว่าไปร้านอาหารแม่ยุ้ย จะเจอซอยเล็กๆ อยู่ข้างร้าน ตรงเข้าซอยไปจะเจอโชว์รูม ETRAN ครับ
2. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ให้เข้าซอยพหลโยธินซอย 5 ขับตรงเข้าไปประมาณ 200 เมตร เจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย และตรงไปอีก 200 เมตร จะเจอทางแยกไม่ต้องเลี้ยว ให้ขับตรงไปเพียง 50 เมตร ก็จะเจอซอยแรกทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย ร้านจะอยู่ทางขวามือครับ