ความมั่นใจในตนเอง เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญสำหรับทุกๆ คนหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถฝ่าฝันปัญหา และอุปสรรคต่างๆ ที่คุณประสบในชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงานได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีน้อยคนที่จะเกิดมาพร้อมกับความมั่นใจในตนเองแบบเต็มสูบ  ถ้าคุณไปเจอใครที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากๆ  ก็ให้คิดไว้ก่อนว่าเขา หรือเธอได้สร้าง และสั่งสมความมั่นใจในตนเองมาเป็นระยะเวลานานหลายปีจากประสบการณ์ชีวิตของพวกเขา  — ใช่แล้ว ความมั่นใจในตนเองนั้นไม่เกี่ยวกับพันธุกรรมส่วนบุคคล แต่มันเป็นเหมือน “ทักษะ” ที่คุณเองก็สามารถสร้างขึ้นมาได้

ต่อไปนี้คือ สิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเองได้

1. พูดให้กำลังใจกับตนเอง

การประพฤติตัวของพวกเรามักจะสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเรากำลังคิดอยู่ ดังนั้น หากต้องการให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างยั่งยืน พวกเราก็ต้องเปลี่ยนวิธีมองตัวเองเสียใหม่ ด้วยการพูดกับตัวเอง (Self-Affirmation) ด้วยข้อความเชิงบวก เพราะสมองของพวกเรามักจะเชื่อในสิ่งที่พวกเราพูดตอกย้ำกับตัวเอง  ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณไม่พอใจรูปร่างหน้าตาของคุณ ก็ให้ลองพูดอะไรก็ได้ที่คุณชื่นชม หรือชอบเกี่ยวกับตัวเอง ทุกๆครั้งที่คุณไปส่องกระจก

คุณควรหาพูดชมเชย และแสดงความยินดีแก่ตัวเองทุกๆ ครั้งที่คุณสามารถทำสิ่งใดได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน

การพูดกับตัวเองจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากพูดออกมาดังๆ ให้ตัวเองได้ยิน และควรพูดโดยใช้รูปแบบของประโยคคำถาม เช่น พูดว่า “ทำไมเราถึงเป็นคนหล่อ/สวยขนาดนี้กันนะ” แทนที่จะพูดว่า “ฉันเป็นคนหล่อ/สวย”  เพื่อหลอกให้สมองของคุณซึมซับ และยอมรับคำพูดคุณเองได้เร็วขึ้น เพราะสมองของมนุษย์ถูกธรรมชาติออกแบบมาให้คิดวิเคราะห์หาคำตอบของปัญหา

2. ตั้งคำถามกับความคิดในแง่ลบในจิตใจของตัวคุณ

คำวิจารณ์ต่อตัวคุณส่วนมากไม่ได้มาจากภายนอก แต่เป็นเสียงมาจากภายในจิตใจของคุณเอง ในผู้ที่ขาดความมั่นใจในตนเองต่ำจะชอบติหนิ หรือดูถูกความสามารถตัวเองอยู่บ่อยๆ อยู่ภายในใจ  เช่น “สิ่งนี้ฉันทำไม่ได้”  “งานนี้ให้คนอื่นทำน่าจะดีกว่า”  “ยอมแพ้ดีกว่า”

วิธีการแก้ปัญหานี้ก็คือ คุณต้องไม่เชื่อเสียงวิจารณ์เหล่านั้น และพยายามตั้งคำถามกับมันว่าสิ่งที่คุณกำลังตำหนิตัวเองอยู่ในใจนั้นมันจริง หรือเป็นการคิดในแง่ลบเกินจริง ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่สามารถรับผิดชอบงานที่ได้รับมาได้เพราะความสามารถไม่พอ ก็ลองถามใจตัวเองดูว่า มีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้คุณไม่เหมาะกับหน้าที่ดังกล่าว หรือ มีเหตุผลอะไรบ้างที่คนอื่นน่าจะทำได้ดีกว่าคุณ ถ้าคุณไม่สามารถตอบคำถามเหล่านั้นกับตัวเองได้ ก็แปลว่าคุณอาจกำลังดูถูกตัวเองมากเกินไป

3. อย่ากำหนดเป้าหมายชีวิตที่สูงเกินจริง

บางคนที่ชอบตั้งเป้าหมาย (Goal) ไว้สูงเกินความสามารถ และพอไม่สามารถทำได้ตามที่หวังก็เสียความมั่นใจ และมองว่าตัวเองไร้ความสามารถไปซะอย่างนั้น  — ในช่วงแรก คุณควรตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่คุณสามารถทำสำเร็จได้ง่ายก่อนจะก็ค่อยๆ ขยับไปเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ  พร้อมทั้งจดบันทึกสิ่งที่คุณทำสำเร็จไว้ทั้งหมดด้วยเป็นหลักฐาน

ในอนาคต เมื่อคุณไปนั่งย้อนไล่ดูความสำเร็จเหล่านั้น คุณจะรู้สึกภูมิใจที่เห็นว่าตัวคุณมาได้ไกลแค่ไหนแล้วจากจุดเริ่มต้น และทำให้คุณมีความมั่นใจที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ

4. ช่วยเหลือผู้อื่นตามความสามารถที่คุณมี

ผู้ที่มีความมั่นใจในตนเองต่ำมักจะเห็นคนอื่นๆ ดีกว่าตัวเองไปซะทุกเรื่อง  ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะทุกคนก็ต่างก็มีสิ่งที่ถนัด และไม่ถนัดกันทั้งนั้น การที่คุณไม่สามารถทำได้เหมือนผู้อื่นไม่ได้แปลว่าคุณไร้ความสามารถ เพราะคุณก็อาจมีความถนัดในสิ่งที่คนรอบตัวคุณทำไม่ได้เช่นกัน

ดังนั้น คุณไม่ควรไปกังวลกับสิ่งที่คุณทำไม่ได้ และหันไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้แทน  โยคุณสามารถใช้ความสามารถที่คุณมีช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องที่พวกเขาไม่ถนัดได้  เพราะการช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากจะช่วยรกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผู้อื่นแล้ว เมื่อคุณเห็นว่าตัวเองสามารถเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ คุณก็จะมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากขึ้นไปด้วย

5. อย่าให้ใครมามาควบคุมชีวิตของคุณ

ชีวิตของคุณ เป็นของตัวคุณเอง ดังนั้น คุณควรยึดมั่นในความคิด และความต้องการของตนเองเป็นหลัก อย่าปล่อยให้มีใครมามาควบคุมความคิด-การตัดสินใจของตัวคุณ เช่น หากคุณต้องการอะไรก็ให้พูดความต้องการออกไป อย่าเก็บไว้ในใจ  หากคุณไม่ต้องการทำอะไรก็ให้ปฏิเสธออกไปตามความเหมาะสม อย่าได้ตอบตกลงในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ  หรือไม่ชอบ

6. อย่าละลายสุขภาพร่างกาย และภาพลักษณ์ของตนเอง

ความมั่นใจในตนเอง ไม่ใช่เรื่องของจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความเชื่อมโยงกับสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางสังคม ของคุณได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผู้ที่เป็นกังวลเรื่องรูปร่างของตนเองมากๆ หรือผู้ที่มีสุขภาพไม่ค่อยดี ก็มักจะมีความมั่นใจในตนเองน้อย ดังนั้น คุณควรหาเวลาว่างทุกๆ สัปดาห์ไปออกกำลังกาย เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้คุณรู้สึก “เต็มร้อย” ในทุกๆ วัน

นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกอย่างการแต่งกายเองก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการแต่งกายคือการแสดงออกถึงตัวตนของคุณเอง และยังมีส่วนช่วยในเสริมสร้างภาพลักษณ์ของคุณในสายตาของผู้อื่นด้วย เพราะฉะนั้นในวันที่มีเรื่องสำคัญต้องทำ ก็ให้หยิบชุดตัวเก่งของคุณ หรือชุดที่คุณชอบที่สุดมาใส่ และ/หรือ พกพาเครื่องรางต่างเพื่อเพิ่มความมั่นใจส่วนตัวของคุณ


ข้อมูลจาก 
https://www.entrepreneur.com/article/281874

Category:

Passion in this story