3 แอพลิเคชั่นที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในประเทศไทย

ปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตที่ยากลำบากของผู้พิการเป็นหนึ่งในปัญหาที่สังคมรับรู้ แต่ไม่ได้ให้ความใส่ใจในการ หาวิธีอำนวยความสะดวกให้กับเหล่าผู้พิการมากเพียงพอที่ช่วยให้พวกเขาสามารถพึ่งพาพาตนเอง และใช้ชีวิตเฉกเช่นเดียวกันกับคนทั่วไปได้

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการในสังคม ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยและให้ความสะดวกแก่ผู้พิการ โดยขอยกตัวอย่าง แอพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เหล่าผู้พิการโดยเฉพาะ ได้แก่

1. กรุงไทย NEXT

Mobile Banking เป็นแอปพลิเคชั่นหนึ่งที่เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน สำหรับสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ในทุกวันนี้ โดย กรุงไทย NEXT เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับทำธุรกรรมทางการเงินที่ออกแบบโดยคำนึงถึง User Interface รองรับการใช้งานผ่านฟังก์ชั่นตัวช่วยการเข้าถึง เช่น Voice Over ของระบบ iOS หรือ Talk Back ของระบบ Android ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน UI Accessibility Guideline ของทั้ง iOS และ Android ส่งผลให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินได้ด้วยตนเองอย่างสะดวกสบายเหมือนคนปกติทั่วไป

นอกจากนี้ กรุงไทย NEXT ยังใช้ง่าย ปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว และมีเครือข่ายการทำธุรกรรมการเงินทั้ง โอนเติมจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าปรับจราจร การสั่งซื้อ-จองสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้า จนได้รับการโหวตจากผู้พิการทางสายตาทั่วประเทศ ให้กรุงไทย NEXT เป็น Mobile Banking ที่ใช้งานสะดวกสบาย ได้รับรางวัล Tab Digital Inclusive Awards 2019 จากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย

2. Read for the Blind

Read for the Blind เป็นแอพลิเคชั่นที่เกิดจากความร่วมมือของ Samsung, SCB, AIS และ Google ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิตของผู้พิการทางสายตา โดยในประเทศไทยนั้น มีผู้พิการทางสายตาสูงมากถึงเกือบ 200,000 คน แต่หนังสือที่ผลิตขึ้นด้วยอักษรเบรลล์นั้นมีจำนวนเพียงจำนวนเพียงหลักพันเล่มเท่านั้น ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

Read for the Blind จึงเป็นแอพลิเคชั่นที่เกิดขึ้นจากเหล่าจิตอาสาในการผลิตหนังสือเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตาหรือผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยังขาดโอกาส เพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความรู้ที่มีประโยชน์ มองเห็นโลกกว้าง เสริมสร้างจินตนาการ พัฒนามุมมองในการเรียนรู้ และให้ความบันเทิงได้ทุกที่ ทุกเวลา ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เหล่าผู้พิการทางสายตาและผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ได้มองเห็นโลกไม่ต่างจากคนทั่วไปด้วยการแชร์ เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านเสียงของเรานั่นเอง

3. Grab

ทุกคนคงรู้จักหรือเคยใช้บริการรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ สั่งอาหาร และส่งพัสดุ ผ่านแอพลิเคชั่น Grab มากันบ้าง แต่จริง ๆ ยังมีอีก 1 บริการดี ๆ จาก Grab ที่คนปกติอย่างพวกเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน นั่นก็คือ “GrabAssist” ซึ่งเป็นบริการเรียกรถสำหรับผู้ที่นั่งรถเข็น หรือผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา หรือทางการได้ยิน รวมไปถึงผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

บริการ “GrabAssist” มีความพิเศษตรงที่ผู้ขับขี่นั้นจะได้รับการอบรมและฝึกทักษะที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการจัดเก็บเก้าอี้หรือรถเข็น ทักษะการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้โดยสาร ทักษะของภาษามือสำหรับการสื่อสารเบื้องต้น ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยตลอดการเดินทาง ถือเป็นการมอบทั้งบริการและประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางให้กับเหล่าผู้ผู้พิการ และผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี

 3 แอพลิเคชั่นที่ยกตัวอย่างมานี้ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่จะช่วยเหลือผู้พิการในสังคมให้ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมเหมือนกับคนปกติทั่วไป รวมทั้งยังจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาคส่วนต่างๆ หันมาให้ความสำคัญและนำเทคโนโลยีมาพัฒนารูปแบบการให้บริการ เพื่อเพื่อนผู้พิการในสังคมเดียวกับเรา สามารถเข้าถึงและรับบริการต่างๆ มากยิ่งขึ้นในอนาคต