สินค้ามาใหม่เพิ่งเปิดตัวที่ลอนดอนได้ไม่นาน เป็น wearable item ชิ้นแรกในโลก ที่นำเอาเรื่องของ ดีเอ็นเอ มาใช้ ทำให้ผู้สวมใส่เสมือนหนึ่งมี “นักโภชนาการ” ประจำตัวแนะนำการกิน และราวกับมี “ที่ปรึกษาสุขภาพ” แนะนำให้ผู้สวมใส่ขยับเขยื้อนร่างกายหลังจากอยู่นิ่งๆ นานเกินไป เพราะต้นเหตุของสุขภาพเสื่อมมาจากการกินไม่ดี และไม่มีการออกกำลังกายนั่นเอง

inspiration starts here

เมื่อโรคทางพันธุกรรมที่ยากจะตรวจพบกลายเป็นต้นเหตุ “ภาวะไตวาย” ของลูกชาย ทำให้ศาสตราจารย์ Chris Toumazou นวัตกร นักประดิษฐ์ และผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี เจ้าของสิทธิบัตรกว่า 80 รายการในสาขาสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับผู้บริโภค และเทคโนโลยีไมโครชิป และผู้ก่อตั้ง Imperial College Institute of Biomedical Engineering  สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ ได้สร้างสรรค์สินค้านวัตกรรม อย่าง สายรัดข้อมือ DNA Nudge ที่มีแคปซูลบรรจุข้อมูลดีเอ็นเอเฉพาะบุคคลไว้ มาเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อสินค้าที่ดีมีประโยชน์กับสุขภาพของผู้สวมใส่

ภาพจาก dnanudge.com

พฤติกรรมการใช้ชีวิต ตัวการ ความเจ็บป่วย

 ในความเห็นของศาสตราจารย์ Chris Toumazou ลักษณะทางพันธุกรรมเป็นสิ่งที่เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ และความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางประการก็ถูกกำหนดมาตั้งแต่เราเกิด แต่สิ่งที่ทำให้ความเสี่ยงนี้กลายเป็นจริง คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานี่เอง ดังนั้น หากเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความเสี่ยง และระดับความรุนแรงของโรคที่จะเกิดขึ้น ก็จะน้อยลง เช่นกรณีของลูกชายของเขา ถ้าเขาได้รู้ความลับความเสี่ยงเหล่านี้มาก่อน เขาย่อมกำหนดรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกชายให้แตกต่างไปอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งจะทำให้ลูกปลอดภัยจากการเจ็บป่วยนี้ได้

ขั้นตอนการทดสอบดีเอ็นเอ

เริ่มแรกเลย ต้องทำการเก็บน้ำลายตัวอย่าง ด้วยการใช้ไม้พันสำลี ถูด้านในกระพุ้งแก้มข้างละ 30 วินาที จากนั้น นำไม้พันสำลีดังกล่าว ใส่เข้ากับ ตลับดีเอ็นเอ (DNA Cartridge) และนำตลับดังกล่าวใส่ในกล่องอ่าน – ประมวลผล ใช้เวลา 2 – 4 ชั่วโมง เทียบกับวิธีการปกติในการตรวจดีเอ็นเอที่กินเวลา 8 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย ก็จะได้ข้อมูลดีเอ็นเอของเรา และข้อมูลดังกล่าว ก็จะถูกโหลดเข้ากับแคปซูล ก่อนนำมาฝังไว้บนสายรัดข้อมือซึ่งมีให้เลือกหลากสีตามสไตล์ที่ชื่นชอบ

นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้นี้ ยังจะเก็บไว้ในแอพพลิเคชั่น DNA Nudge บนมือถือได้อีกทางหนึ่งด้วย

ภาพจาก cnet.com

ให้ดีเอ็นเอ นำทางจับจ่ายเพื่อสุขภาพที่ดี  

เพียงแค่ทุกครั้งที่ไปจับจ่ายซื้อหาของกิน ให้นำสายรัดข้อมือที่สวมใส่นี้ สแกนกับบาร์โค๊ดสินค้าที่ต้องการซื้อ หากปรากฎแถบสีเขียว ก็แปลว่า อาหารนั้น เหมาะกับเรา แต่หากเป็นสีแดง ก็หมายความว่า อาหารนั้น อาจเป็นอันตรายกับสุขภาพของเราในระยะยาว นอกจากนี้ สายรัดข้อมือที่เชื่อมกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ยังจะแนะนำสินค้าทางเลือกให้เรากรณีที่เกิดแถบสีแดงขึ้นกับสินค้าที่เราสแกนไปก่อนหน้านี้

ศาสตราจารย์ Chris Toumazou บอกว่า ไม่ใช่ว่า จะห้ามไม่ให้คุณกินบิสกิตที่ชื่นชอบ หรือแนะนำให้กินแต่ผลไม้ จำพวก องุ่น เป็นต้น คุณยังสามารถกินบิสกิตได้ แต่เราจะแนะนำบิสกิตที่ดีกว่า เหมาะสมกับสุขภาพตามข้อมูลรหัสพันธุกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณมากกว่าให้

และด้วยวิธีการนี้ จึงถือว่า เป็นการนำข้อมูลทางชีววิทยามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราทีละน้อย เพื่อนำพาเราไปสู่การมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ปัจจุบัน ผู้พัฒนาสินค้า สายรัดข้อมือ ดีเอ็นเอ ได้มีการวิเคราะห์สินค้าที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว 5 แสนรายการ

ภาพจาก weforum.org

กินดีแล้ว ต้องไม่นั่งนิ่งเฉย

อย่างไรก็ตาม หากว่า เลือกซื้อ กินของดีๆ แต่ไม่มีการขยับเขยื้อนร่างกาย อยู่ในภาวะเฉื่อยเนือย นั่งนิ่งนานเกินไป อะไรที่ว่า ดี ก็จะกลายเป็นไม่ดี หากอยู่ในภาวะนี้ ข้อมูลบนสายรัดข้อมือที่เคยเป็นสีเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เพื่อเตือนให้เราลุกจากที่ ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวให้สีเหลืองหายไป คืนสีเขียวกลับคืนมา

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า หนึ่งในสิบของคนที่อยู่ในภาวะก่อนเป็นเบาหวานมีโอกาสพัฒนาเป็นเบาหวานแบบที่สองได้ ซึ่งตัวเลขทั่วโลกของคนกลุ่มนี้ มีมากถึง 400 ล้านคนทีเดียว การตรวจพบความลับทางพันธุกรรม และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้แอคทีฟมากขึ้น จึงมีผลลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างมีนัยสำคัญ

นับเป็นอีกหนึ่ง wearable item ที่น่าจับตามอง ในฐานะสินค้านวัตกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชากรโลก

P.S.

Happy Ending  

สำหรับลูกชายของผู้คิดค้นสินค้านวันกรรม สายรัดข้อมือ ดีเอ็นเอ นี้นั้น หลังจากต้องนอนป่วยมาหลายเดือน ก็ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายไตเรียบร้อย กลับมาแข็งแรงดีแล้วค่ะ

ภาพจาก dnanudge.com

Sources 
- This wristband tells you what food to buy based on your DNA : weforum.org 15 Nov 2019
- dnanudge.com
- Facebook : dnanudge

Category:

Passion in this story