ชื่อเสียงและเสน่ห์ของอาหารไทย ทำให้ชาวต่างชาติหลายต่อหลายคนหลงใหล ยอมลงทุนเดินทางมาถึงประเทศไทย เพื่อสัมผัสอาหารไทยต้นตำรับ รสชาติความอร่อยของอาหารไทยจานแรกบนเครื่องบิน จึงเท่ากับเป็นการเปิดประตูสู่ความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว
สุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครัวการบินไทย เป็นหน่วยงานสำคัญของการบินไทย แต่ละปีได้สร้างผลงาน ชื่อเสียงและกำไรอย่างมากมาย โดยปัจจุบัน ทำหน้าที่ผลิตอาหารป้อนการบินไทย ไทยสไมล์ และสายการบินอื่นๆ อีก 64 สายการบิน อาทิ สายการบินเอเอ็นเอ อีว่าแอร์ แอร์ฟรานซ์ เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนที่ให้บริการสายการบินภายนอกประมาณ 30 เปอร์เซนต์
“อาหารไทยเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติมาก หลายชาติในยุโรปยอมรับว่าอาหารไทยเป็นพรีเมี่ยม และมีราคาสูงกว่าอาหารยุโรป อีกทั้งสายการบินที่บินมาลงสุวรรณภูมิก็ใช้บริการครัวการบินไทยเพิ่มขึ้น ทำให้เรามองเห็นโอกาสการขยายตัวของครัวการบินไทย”
สำหรับแนวคิดในการขยายตลาด สุเมธมองว่า การบินไทยมีจุดหมายปลายทาง (destination) อยู่ในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชุมทางการบินสำคัญ หากสามารถนำครัวการบินไทยไปเปิดให้บริการสายการบินต่างๆ ที่บินมายังชุมทางเหล่านี้ ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตลาดของครัวการบินไทย
ครัวการบินไทย พร้อมเติบโตแค่ไหน?
สุเมธกล่าวว่า ที่ผ่านมาครัวการบินไทย พยายามปรับปรุงและพัฒนาเมนูอาหารบนเครื่อง โดยเฉพาะอาหารไทยให้มีรสชาติอร่อยถูกปากผู้โดยสาร และยอมรับว่า ที่ผ่านมามีเสียงบ่นจากผู้โดยสารในบางไฟลท์ว่า อาหารไทยบนเครื่องไม่อร่อย รสชาติเปลี่ยนไปจากเดิม
“เราไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหา และการแก้ให้ตรงจุดก็คือ ทำอาหารไทยให้อร่อย เมื่อเร็วๆ นี้ เราจึงเชิญอาจารย์ศรีสมร คงพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญอาหารไทย มาเป็นที่ปรึกษาและช่วยออกแบบไทยสำรับให้กับเที่ยวบินชั้นธุรกิจ ไฟลท์บินจากกรุงเทพฯ ไปยังยุโรป ใน 4 เมืองหลักของเรา คือ ลอนดอน ซูริค แฟรงเฟิร์ต และชาร์ล เดอโก ได้รับคำชมอย่างมาก นี่เป็น 1 ในการพัฒนาที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน”
เหตุที่การบินไทยเร่งเดินหน้าปรับปรุงและพัฒนาเมนูอาหารไทยนั้น สุเมธบอกว่าเพื่อให้ผู้โดยสารเกิดการจดจำและบอกต่อคนรู้จักว่า
“ขึ้นเครื่องการบินไทย อาหารไทยอร่อยที่สุด”
ยกระดับเมนู สร้าง Storytelling
แม้ปัจจุบัน เมนูและรสชาติอาหารบนเที่ยวบินที่ได้รับการปรับปรุง จะมีเสียงตอบรับในทางที่ดี และมีเสียงบ่นน้อยลง แต่สุเมธยืนยันว่า ครัวการบินไทยไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาเมนูและรสชาติอาหารให้เป็นที่ยอมรับของผู้โดยสารมากขึ้นอีก โดยในปีนี้ จะเน้นการพัฒนา 3 เรื่องหลักๆ คือ
1. Michelin Star
ดึงมิชลินสตาร์ที่มีชื่อเสียง เข้ามาช่วยพัฒนาและดีไซน์อาหาร ซึ่งขณะนี้ได้คุณวินเซนต์ เธียร์รี่ มิเชลิน 3 ดาว จากโรงแรมเลอบัว มาช่วยดูอาหารยุโรป ส่วนอาหารไทย ได้ เชฟต้น – ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร มิเชลิน 1 ดาว เจ้าของร้านฤดู (Le Du) สีลมซอย 7 มาช่วยดูอาหารไทยให้
2. Local Signature
ร่วมกับ โรงแรมโอกุระ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 6 ดาว และมีห้องอาหารที่ได้รางวัลมิเชลิน 2 ดาว มาช่วยดีไซน์อาหารญี่ปุ่น
3. Storytelling
อาหารทุกจานที่เสิร์ฟบนเครื่องการบินไทยจะต้องมีเรื่องราว และชื่อเชฟผู้ดีไซน์ (Designed by Chef) เพื่อให้ผู้โดยสารทราบว่า เชฟคนไหนเป็นคนดีไซน์ และมีที่มาที่ไปอย่างไรถึงถูกเลือกมาเสิร์ฟบนเครื่อง
จับมือ PTTOR ขยายพัฟแอนด์พายสู่ตลาดสากล
ในส่วนของการขยายตลาดธุรกิจเบเกอรี่ “พัฟ แอนด์ พาย” ขณะนี้ได้มีการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) วางจำหน่ายสินค้าประเภท แซนวิช เบเกอรี่ สลัด และอาหารพร้อมทานกว่า 20 ชนิด ในร้านคาเฟ่ อเมซอน 70 สาขาในปีนี้
“สำหรับปีต่อๆ ไป การบินไทยมีแผนขยายการให้บริการพัฟ แอนด์ พายในสาขาอื่นๆ ของคาเฟ่ อเมซอนให้ได้มากที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะจับมือกันในฐานะรัฐวิสาหกิจทั้งคู่ นี่เป็นอีก 1 ธุรกิจที่สามารถต่อยอดของการบินไทย และผมเชื่อว่าการบินไทยยังสามารถเติบโตได้อีกเยอะ”
สุเมธกล่าวทิ้งท้ายว่า การขยายโอกาสของครัวการบินไทยเพื่อรองรับสายการบินอื่นๆ ที่จะมาใช้ครัวการบินไทยในอนาคต เป็นเรื่องท้าทายและน่าสนใจสำหรับอนาคต ซึ่งการบินไทยขอเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตลาดอาหารไทยสู่ต่างประเทศเพื่อให้คนต่างชาติได้ลิ้มลอง และทำหน้าที่เป็นประตูบานแรกสำหรับนักท่องเที่ยวในการก้าวสู่โลกของอาหารไทย
Category: