ปิดฉากอย่างสวยงามกับมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (Motor Expo 2021) ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2564 มียอดจองรถยนต์ภายในงานทั้งสิ้น      31,583 คัน ลดลงจากการจัดงานครั้งก่อนเพียงแค่ 6.4% ตัวเลขดังกล่าวนับว่าท้าทายมากในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้

ความน่าสนใจที่ทำให้ค่ายรถยนต์ภายในงานต้องกรอกตามองบน คือ กระแสการตื่นตัวของยานยนต์แห่งโลกอนาคตอย่างรถยนต์ไฟฟ้า จึงได้เห็นคนไทยจริงจังศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น ค่ายรถไหนที่ไม่มีนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามาแสดงก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นค่ายรถเกรท วอลล์ มอเตอร์ส (GWM) ที่ขยันสร้าง Surprise คนไทย นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 4 อย่าง “Haval H6 PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด)” มาเรียกน้ำย่อย โดยเตรียมทำการตลาดในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้นยังได้เปิดตัวรถเอสยูวียักษ์ใหญ่อย่าง “Tank 500” พร้อมชนทุกค่ายในอนาคต  ซึ่งทั้ง 2 รุ่นที่กล่าวมา บริษัทแม่ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ได้เลือกให้ไทยเป็นสถานที่เปิดตัวรถทั้ง 2 รุ่นที่แรกในโลก

Haval H6 PHEV

            Passion Market มีโอกาสสัมภาษณ์คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่เกรท วอลล์ ฯ บริษัทแม่ในประเทศจีนเล็งเห็นความสำคัญของไทยนั้น เพราะไทยเป็นฐานการผลิตนอกประเทศแห่งที่ 2 และยังมองว่าไทยเป็นศูนย์กลางรถยนต์พวงมาลัยขวาของอาเซียน ถึงขนาดส่งทีมเข้ามาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) เพื่อให้รถยนต์ที่จะผลิตออกมาต้องตอบโจทย์และตรงใจผู้บริโภคคนไทยให้มากที่สุด พร้อมกับใส่นวัตกรรมใหม่ ๆ  ของเกรท วอลล์ ฯ ให้ผู้บริโภคคนไทยเป็นที่แรกของโลก

เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ได้เปลี่ยนอะไรให้ยานยนต์ของไทยบ้าง

ที่เห็นชัดเจนที่สุด คือ เกรท วอลล์ ฯ เข้ามาเปลี่ยนในเรื่องของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (Dealer) ให้มาเป็นพันธมิตรคู่ค้า (Partner) โดยการปรับทัศนคติใหม่ต้องไม่เน้นเพียงแค่เรื่องของยอดขายเท่านั้น แต่ให้เน้นเรื่องงานบริการให้กับลูกค้าทุกคนทุกกลุ่มแบบเท่าเทียม โดยเฉพาะหัวใจสำคัญอย่างเรื่องบริการหลังการขาย ต้องไม่มีการตัดราคาขายเพื่อแย่งลูกค้ากันเอง เราจึงมอบนโยบายว่าทุกโชว์รูมของเกรท วอลล์ต้องขายเหมือนกัน ขายราคาเท่ากันราคาเดียวทั้งประเทศเพื่อลดความกังวลให้กับลูกค้า

“เราให้ความสำคัญเรื่องการบริการค่อนข้างมาก มีการปรับวิธีบริการแบบเชิงรับให้มาเป็นเชิงรุก ให้ลูกค้าเลือกรับบริการได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมาย เราก็มีเซอร์วิสไปถึงบ้านลูกค้า โดยการบริการลักษณะนี้เชื่อว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดแก่วงการรถยนต์ของไทย”

ณรงค์ สีตลายน

อยากฝากอะไรถึงผู้บริโภคคนไทยที่ให้การต้อนรับอย่างดี

คงจะพูดอะไรไม่ได้นอกจากคำว่า “ขอบคุณ” ที่เราได้รับการต้อนรับอย่างดี             ตลอดช่วง 10 เดือนที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ จากนี้เราเตรียมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าต่อไป

ทั้งหมดที่กล่าวมา  คือ ก้าวแรกของค่ายรถยนต์สัญชาติจีนค่ายนี้ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยในการลงมาเล่นกับสนามแข่งขันที่ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็เป็นเครื่องการันตีแล้วว่า ถ้าสินค้าดีจริง  เอาใจใส่เทคแคร์ลูกค้าดีจริงอย่างตั้งใจ ผลลัพธ์ก็จะแสดงออกมาให้เห็นเอง โอกาสหน้า Passion Market จะพาทุกคนไปพบธุรกิจที่มีแรงบันดาลใจอะไร รอติดตามนะครับ  สำหรับวันนี้….สวัสดีครับ

Passion in this story