“เป้าหมายในชีวิตคืออะไร” “ในอีก 5 ปี ข้างหน้าคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” “ชีวิตจะทำอะไรต่อ” คำถามเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับเราเสมอนะครับ ไม่ว่าจะคนอื่นจะถามเรา หรืออยู่ ๆ เราอาจจะถามตัวเองขึ้นมา ซึ่งหลายคนเวลาถูกถามก็แอบสะอึกอยู่เหมือนกัน
คลาสในวันนี้ เราจะมาพูดถึงการตั้งเป้าหมายเพื่ออนาคตที่สดใสของชีวิตและหน้าที่การงานกัน
หลายคนอาจจะถามว่า มันจำเป็นเหรอที่จะต้องมีเป้าหมายในชีวิต แต่ถ้าใครเคยรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะทำอะไรต่อไป นั่นก็เพราะว่าเราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนไงครับ ผมจะบอกอย่างงี้ครับว่า เมื่อจุดหมายปลายทางมันชัดเจน เส้นทางที่จะเดินต่อไปมันก็จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเหมือนกัน มันจะช่วยไม่ให้เรารู้สึกเคว้งคว้าง หลงทาง และรู้ว่าเราควรจะทำอะไรต่อไปในชีวิต
ก่อนที่จะไปดูกันว่าเราจะตั้งเป้าหมายยังไง เรามาตั้งคำถามกันก่อนดีกว่าว่า ทำไมชีวิตถึงจำเป็นจะต้องตั้งเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายเนี่ย เป็นสิ่งสำคัญนะครับ เพราะจะทำให้เรามีกรอบ มีแนวทางชัดเจนว่าจะทำอะไรต่อไป และจะทำยังไงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ถ้าเรายังไม่รู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร อาจจะเริ่มต้นง่าย ๆ จากการดูว่า เราชอบอะไร เราอยากทำอะไร แต่ถ้ายังไม่รู้อีก ลองหาตัวเองดูครับ ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อหาว่าเราถนัดทำอะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข ซึ่งเป้าหมายเนี่ยจะมีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ เป้าหมายระยะยาว และ เป้าหมายระยะสั้น
เป้าหมายระยะยาว
โดยส่วนใหญ่แล้ว เป้าหมายระยะยาวจะเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดที่ต้องการทำให้ได้ ซึ่งจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะสำเร็จ เราอาจจะแบ่งเป้าหมายระยะยาวออกเป็นเป้าหมายระยะสั้นย่อย ๆ เหมือนกับการปีนเขาเอเวอเรสต์ที่จะต้องมีจุด Check point ระหว่างทาง เพื่อให้รู้ว่า เออ เราเดินมาถูกทางแล้วนะ ให้รู้สึกว่าเราเข้าใกล้ความสำเร็จขึ้นเรื่อย ๆ ให้เราได้พักเหนื่อย หรือฉลองความสำเร็จให้ตัวเองได้เป็นพัก ๆ เป้าหมายระยะยาวอาจรวมถึงการได้งานในอาชีพที่เราใฝ่ฝันหรือได้รับการเลื่อนตำแหน่งในระดับหนึ่ง หรือการทำโครงการอะไรที่อยากจะทำ
เป้าหมายระยะสั้น
เป้าหมายระยะสั้นเป็นเป้าหมายเฉพาะหน้าที่เราตั้งไว้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาวที่ใหญ่กว่า เป้าหมายระยะสั้นมันเหมือนกับหลักกิโลที่บอกว่าเราอยู่ตรงไหนแล้ว ใกล้ถึงเป้าหมายแล้วรึยัง เป็นก้าวเล็ก ๆ ที่จะพาให้เราไปถึงจุดหมายปลายทาง เป้าหมายระยะสั้นเนี่ยมักจะเป็นกรอบระยะเวลาสั้น ๆ อาจจะเป็นวัน เดือน หรือปีสองปี เช่น เป็นโปรเจคเล็ก ๆ หรือทำงานเก็บประสบการณ์ หรือการเข้าร่วมโครงการเพื่อเก็บเป็นพอร์ตเฉย ๆ โดยส่วนใหญ่เป้าหมายระยะสั้นจะเป็นส่วนหนึ่งเพื่อทำให้เป้าหมายในระยะยาวสำเร็จได้
ตั้งเป้าหมายอย่างไรดี?
1. ตั้งเป้าหมายให้เคลียร์และละเอียดชัดเจนที่สุด
เช่น จากที่กำหนดแค่ว่า “ฉันอยากจะพูดในที่สาธารณะให้ดีขึ้น” ให้ลองลงรายละเอียดเป็นว่า “ฉันอยากจะนำเสนองานใน 10-15 นาที กับคน 50 คน ให้ประทับใจให้ได้”
2. กำหนดวิธีที่จะวัดความสำเร็จ
เช่น ถ้าอยากจะเปลี่ยนสายงานจากเซลล์ ไปเป็นมาร์เก็ตติ้ง เราอาจจะเริ่มจากการตั้งเป้าว่าจะพัฒนาทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นกับการทำงานในสายมาร์เก็ตติ้ง ไปหาดูว่า เออ การจะทำงานมาร์เก็ตติ้งเนี่ย ทักษะความรู้ที่ต้องมีคืออะไรบ้าง และกำหนดว่าฉันจะเรียนรู้ให้ได้ภายใน 1 เดือน ถ้าทำวิธีนี้ได้คือสำเร็จไปขั้นหนึ่ง
3. ดูด้วยว่าเราทำตามเป้าหมายนั้นได้ไหม
การตั้งเป้าหมายที่เราสามารถทำให้เสร็จ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมกับศักยภาพของเราเนี่ย จะช่วยให้เราตื่นตัว มีแรงบันดาล และโฟกัสอยู่กับเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยไม่ว่อกแว่กได้นะครับ ที่สำคัญคือตั้งเป้าหมายที่เราสามารถทำได้จริง ๆ ไม่ใช่โอเวอร์เกินจนเราทำไม่ได้นะครับ เราชอบทำงานนี้รึเปล่า ความสามารถเราพอไหมกับการไปถึงเป้าหมาย ประสบการณ์เราพอรึเปล่ากับตำแหน่งงานที่เป็นเป้าหมาย เช่น อยากเป็นผู้จัดการแต่ประสบการณ์ อายุงานเราไม่ถึง ก็อาจจะต้องกลับมาทบทวนดูใหม่ว่าเราจะทำยังไงได้บ้าง จะตั้งเป้าหมายใหม่รึเปล่า
4. เป้าหมายระยะสั้นสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวไหม
การกำหนดเป้าหมายระยะสั้นเนี่ย ควรที่จะสอดคล้องล้อไปกับเป้าหมายในระยะยาวด้วยนะครับ มันเหมือนเอาเป้าหมายระยะยาวมาแบ่งออกเป็นเป้าหมายระยะสั้นหลาย ๆ เป้าหมาย เป้าหมายระยะสั้นแต่ละอันควรที่จะมีช่วยให้เราเขยิบเข้าไกลเป้าหมายสุดท้ายที่เราตั้งเอาไว้ เหมือนเวลาเล่นดอทเออะครับ เราต้องฟาร์มก่อน ตีป้อมให้แตกก่อน เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายสุดท้ายคือตีฐานอีกฝ่าย อะไรแบบนั้น
5. กำหนดเดตไลน์
ทุกคนเชื่อในพลังแห่งเดตไลน์ไหมครับ การกำหนดระยะเวลาที่ตั้งใจจะทำให้สำเร็จเสร็จสิ้นเนี่ย จะช่วยให้เรามีแรงในการทำงานอะนะครับ เหมือนกับประโยคที่ว่า “เดตไลน์ไม่มา งานไม่เกิด” มีงานวิจัยหลายชิ้นเลยที่บอกว่าการมีเดตไลน์จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นนะครับ กำหนดเดตไลน์ให้ตัวเองซะ
การตั้งเป้าหมายไม่ใช่แค่จะใช้ได้กับการทำงานเพียงอย่างเดียวนะครับ เราสามารถมาปรับใช้กับการใช้ชีวิตได้ด้วยเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่หน้าที่การงานอย่างเดียวที่ต้องการเป้าหมาย แต่ชีวิตก็ต้องมีเป้าหมายเหมือนกัน แม้ว่าเป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน แต่เราก็ต้องมีเพื่อไม่ให้เรารู้สึกเคว้งคว้างและหลงทาง
การตั้งเป้าหมายทั้งในทางอาชีพและชีวิต จะช่วยให้เรามองเห็นภาพคร่าว ๆ และเส้นทางที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จ นอกจากนี้นะครับ การที่เรามีแผนการให้กับชีวิตตัวเองแบบนี้เนี่ย นายจ้างหรือคนสัมภาษณ์งานเขาชอบด้วยนะ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเรารู้จักวางแผนให้กับชีวิตตัวเอง จัดการตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง มีการเตรียมตัว มีการเตรียมพร้อม และมุ่งมั่น เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้สำเร็จ ใครที่กำลังจะสัมภาษณ์งานล่ะก็ ลองหาจังหวะแย่บ ๆ พูดเรื่องเป้าหมายและแผนการคร่าว ๆ ของชีวิตเราดู แล้วคุณอาจจะได้งานนี้ที่หวังไว้แน่นอน
Category: