ในอดีต “เกาะเต่า” เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำและนักท่องเที่ยว แต่เกาะซึ่งตั้งอยู่ในภาคใต้ของไทยแห่งนี้ พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอีกครั้ง จากการเปลี่ยนเป็นชุมชนที่ยั่งยืนในทะเล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกาะเต่าได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำยอดนิยมของโลก แม้ว่าจะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ทั้งหมด 21 ตร.กม. ล้อมรอบด้วยระบบนิเวศทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์และทรัพยากรทางทะเลที่สวยงาม เช่น แนวปะการัง ปลาหายาก และเต่าทะเล
แต่ละปี เกาะเต่าต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 300,000 คน สร้างรายได้ปีละ 6 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ขยะจำนวนมากกองอยู่บนเกาะ
จากการที่รัฐบาลสั่งปิดประเทศ อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้คนในพื้นที่รวมทั้งกลุ่มคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กบนเกาะเต่า สูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 15,000 บาท
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของชุมชน และช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประเทศไทย (UNDP Thailand) ได้ริเริ่มแคมเปญระดมทุนที่เรียกว่า KOH TAO, BETTER TOGETHER
ภายใต้โครงการระดมทุนครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายคือคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็ก 200 คนจะได้รับค่าจ้างเดือนละ 3,000 บาทต่อคนเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยคนกลุ่มนี้จะช่วยเก็บขยะทะเลและทำความสะอาดชายหาด
ในมุมมองของนายเรอโน เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย เกาะเต่า BETTER TOGETHER เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุงไทยและพันธมิตรของ UNDP Thailand เพื่อระดมทุนเพื่อช่วยเหลือคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กบนเกาะเต่า เป็นโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 และมีเป้าหมายที่จะระดมทุนได้ถึง 1.944 ล้านบาท
โครงการนี้คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว และช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลตามธรรมชาติและสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนบนเกาะ
แนวคิดนี้นี้สอดคล้องกับ 5 เสาหลักของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UNDP เช่น การสร้างคุณภาพชีวิตและครอบครัว การสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
นายผยง ศรีวนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า KOH TAO BETTER TOGETHER เป็นโครงการนำร่อง BIOFIN ซึ่งให้แรงจูงใจทางการเงินเพื่อสนับสนุนการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน BIOFIN ในช่วงที่มีเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้คำแนะนำของ UNDP
“โครงการนี้จะยกระดับเกาะเต่าให้เป็นกรณีศึกษา ในด้านการพัฒนาประชากรและการปรับปรุงคุณภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ”
ทั้งนี้ประชาชนสามารถบริจาคเงินผ่าน Krungthai e-Donation มูลนิธิรักษ์ไทยบัญชี UNDP กรุงไทยรักษ์เกาะเต่า หรือโอนเงินเข้าบัญชี มูลนิธิรักษ์ไทยธนาคารกรุงไทย 034-1-81121-1
ธนาคารกรุงไทยยังได้จัดทำ QR Code สำหรับการระดมทุน เพื่อใช้ในการบริจาคทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลการบริจาคจะถูกส่งไปยังกรมสรรพากรโดยอัตโนมัติเพื่อขอรับการลดหย่อนภาษี
ธนาคารบริจาค 30% ของยอดบริจาคทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้ เพื่อให้โครงการดำเนินไปและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ภายใต้ความร่วมมือนี้ทั้ง UNDP ประเทศไทยและธนาคารกรุงไทย มั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยเกาะเต่าด้วยการสร้างงานให้กับชุมชน
Category: